พลังที่เชื่อมต่อของ Samsung Galaxy
อุปกรณ์ Galaxy ต่าง ๆ ที่เชื่อมต่อกันนั้นสามารถใช้งานร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อเปิดหนทางใหม่ ๆ เพื่อสื่อสาร, ทำงาน, เล่น และมีสุขภาพที่ดีได้อย่างราบรื่น 1
บอกลาปัญหาอุปกรณ์ไม่รองรับ อุปกรณ์ Galaxy ผลิตขึ้นมาให้ทำงานด้วยกันได้อย่างง่ายดาย ตั้งแต่การคุยสายวิดีโอคอลจากสมาร์ททีวีหรือ Galaxy Tab ไปจนถึงการแชร์ไฟล์และทำงานร่วมกับทีมของคุณ Galaxy ทำทุกอย่างให้เป็นเรื่องง่ายดาย
Nearby devices
ค้นหาและเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Samsung ของฉันได้อย่างง่ายดาย
ไม่ค่อยแน่ใจว่าอุปกรณ์แต่ละเครื่องของคุณใช้ฟังก์ชันใดร่วมกันได้บ้างใช่ไหม ด้วย Nearby devices คุณจะสามารถดูอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้เคียงได้ในพริบตา รวมถึงเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เหล่านั้นได้อย่างง่ายดายด้วยการลากและวางเพื่อดูได้ทันทีว่าสามารถใช้งานฟีเจอร์ใดได้บ้าง และแน่นอนว่าคุณจะยังใช้งานฟังก์ชันต่าง ๆ หรือเปลี่ยนการตั้งค่าได้ด้วย! 2
(คลิก + วิธีใช้)
Nearby Devices
*ฟีเจอร์นี้จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ Samsung Galaxy ที่มี Samsung account และต้องเปิดใช้งานทั้ง Wi-Fi และ Bluetooth ในอุปกรณ์เป้าหมาย
1. ปัดลงจากมุมขวาบนของหน้าจอเพื่อเปิด Quick panel และเปิด "Nearby devices"
2. ตรวจดูรายชื่ออุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่อด้วยได้ตรงด้านล่างของหน้าจอ
3. ลากอุปกรณ์เข้าไปในวงกลมด้านบนเพื่อเชื่อมต่อ
4. ตรวจดูและใช้งานฟังก์ชันที่สามารถใช้งานได้สำหรับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกันผ่านป๊อปอัป
5. เลือก "More features (ฟีเจอร์เพิ่มเติม)" เพื่อดูฟีเจอร์ที่มีให้ใช้งานเพิ่มเติมสำหรับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกัน หรือเพื่อปรับการตั้งค่า
- *ภาพจำลองเพื่อการนำเสนอ ยูสเซอร์อินเทอร์เฟซจริงอาจแตกต่างไปจากที่ปรากฏในภาพ
- *โปรดดูคำจำกัดสิทธิ์ความรับผิดชอบตรงด้านล่างสุดในหน้าก่อนนี้สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
แชร์ได้แทบทุกแห่ง
ลืมเส้นแบ่งระหว่างอุปกรณ์ไปได้เลย Galaxy ช่วยให้คุณพาคอนเทนต์ไปในทุก ๆ ที่ที่คุณไปได้
Quick Share
Quick Share สำหรับอุปกรณ์ Android ทั้งหมด
ฟีเจอร์ Quick Share ทำให้การส่งภาพ วิดีโอ และเอกสาร เป็นไปอย่างรวดเร็วและง่ายดาย แชร์ไฟล์กับสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตพีซีของ Galaxy หรือแม้กระทั่งอุปกรณ์ Android ที่ไม่ใช่ของ Samsung ได้ทั้งหมดในเสี้ยววินาที คราวนี้คุณก็ส่งไฟล์ไปยังผู้ติดต่อหลายคนได้พร้อมกันไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน 3
Smart View
คัดลอกหน้าจอโทรศัพท์ไปยังทีวี รักษาความเป็นส่วนตัวของคุณไว้
ฟีเจอร์ Smart View ให้คุณสะท้อนหน้าจอของคุณได้อย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อความส่วนตัว ด้วยฟีเจอร์ "แคสต์แอปเท่านั้น" คุณสามารถแชร์หน้าจอโทรศัพท์ไปยังทีวีหรืออุปกรณ์อื่น ขณะที่ยังใช้โทรศัพท์ของคุณทำงานอื่นได้ 4
(คลิก + วิธีใช้)
Smart View
1. ปัดลงจากมุมขวาบนของหน้าจอเพื่อเปิด Quick panel แล้วแตะ "Smart view"
2. เลือกสมาร์ททีวีของคุณจากรายการอุปกรณ์ที่ปรากฏ
3. แตะ "เริ่มเลย" ที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอเพื่ออนุญาตการเข้าถึง
(※ หน้าจอจะปรากฏขึ้นเมื่อคุณเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ใหม่เป็นครั้งแรกเท่านั้น)
4. เมื่อเชื่อมต่อแล้ว อุปกรณ์ Galaxy ของคุณจะเริ่มสะท้อนหน้าจอไปยังทีวี และคุณจะเห็นไอคอนลอยอยู่บนหน้าจอของอุปกรณ์ Galaxy ของคุณ
5. แตะไอคอนที่ลอยบนหน้าจอ แล้วเลือกตัวเลือกการควบคุม เช่น แคสต์แอปเท่านั้น
- *ภาพจำลองเพื่อสาธิตวิธีการใช้งาน UI จริงอาจแตกต่างออกไป
- *โปรดดูคำจำกัดสิทธิ์ความรับผิดชอบตรงด้านล่างสุดในหน้าก่อนนี้สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ติดต่อกันได้ในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
การสื่อสารที่เปิดกว้างนั้นง่ายขึ้นในระบบนิเวศ Galaxy ที่เปิดกว้าง
การโอนย้ายวิดีโอคอล
พูดคุย, ชม และหัวเราะไปด้วยกัน
คุยสายอยู่ใช่ไหม สนทนาอย่างต่อเนื่องจากทางเดินหน้าบ้านไปจนถึงห้องนั่งเล่น ง่ายดายด้วยการกดปุ่มเดียว โยกสายของคุณจากสมาร์ทโฟนไปยังแท็บเล็ตโดยไม่มีสะดุด และเมื่อคุณต้องออกเดินทางก็แค่โยกสายกลับมายังสมาร์ทโฟน 5
โทรไปยังอุปกรณ์อื่น ๆ
ไม่มีวันพลาดสักสาย
หากคุณกำลังใช้งาน Galaxy Tab หรือคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ Galaxy ของคุณที่เชื่อมต่อไว้จะส่งสายโทรเข้าไปยังอุปกรณ์ของคุณเพื่อไม่ให้พลาดทุกการสื่อสาร 6
(คลิก + วิธีใช้)
Call on other devices
*ฟีเจอร์นี้ใช้งานได้กับอุปกรณ์ Samsung Galaxy เท่านั้น
ทั้งโทรศัพท์ Galaxy และแท็บเล็ต/PC/นาฬิกาของคุณจะต้องลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชี Samsung เดียวกัน
ต้องเปิดใช้งานซิมการ์ดในโทรศัพท์ของคุณ
อุปกรณ์หลักควรเป็นโทรศัพท์ และอุปกรณ์รองรับอาจเป็น Galaxy Tab, PC หรือ Galaxy Watch
1. บนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต Galaxy ของคุณ ให้เปิด “การตั้งค่า” (บน Galaxy Book ให้เปิดแอป “โทรศัพท์”)
→ แตะ “อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ” → แตะ “โทรและส่งข้อความบนอุปกรณ์อื่น” → เปิดใช้งาน “โทรบนอุปกรณ์อื่น”
2. ตอนนี้คุณสามารถรับสายโทรศัพท์บนอุปกรณ์ที่รองรับอื่น ๆ ได้
- *ภาพจำลองเพื่อสาธิตวิธีการใช้งาน UI จริงอาจแตกต่างออกไป
- *โปรดดูคำจำกัดสิทธิ์ความรับผิดชอบตรงด้านล่างสุดในหน้าก่อนนี้สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ยกระดับประสิทธิภาพในการใช้งาน
ด้วย Samsung Galaxy
การซิงค์อุปกรณ์ Galaxy ช่วยให้คุณสร้างเวิร์กสเตชันที่ใช้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ในทุกที่ที่คุณไป
Link to Windows
สิ่งที่อยู่ในโทรศัพท์ของคุณนั้นมาอยู่ในพีซีแล้ว
อีกระดับของการเชื่อมประสานด้วยฟีเจอร์ Link to Windows ไม่ต้องสลับอุปกรณ์ไปมาเพื่อดูข้อความและใช้แอป ให้ทุกอย่างทำงานพร้อมกันบนหน้าจอพีซีเดียว ยกระดับการทำงานแบบลื่นไหลไปอีกขั้นด้วยฟีเจอร์ Recent Apps และ Recent Websites ที่จะแสดงแอปและการค้นหาล่าสุดบนโทรศัพท์มือถือไปยังพีซีของคุณโดยตรง 7
(คลิก + วิธีใช้)
Link to Windows
*หากคุณเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Microsoft ของคุณในขั้นตอน Windows OOBE แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าสู่ระบบแยกกันเพื่อใช้ฟีเจอร์ Link to Windows
*บางขั้นตอนมีการตัดให้สั้นลง
1. เปิดใช้งานแอป Phone Link บนคอมพิวเตอร์ของคุณ
2. คลิกที่ “Android”
3. คิวอาร์โค้ดจะถูกสร้างขึ้นบนคอมพิวเตอร์ของคุณ
4. เปิดใช้กล้องบนโทรศัพท์ของคุณ แล้วสแกนคิวอาร์โค้ด
5. รหัส PIN จะถูกสร้างขึ้นบนพีซีของคุณ
6. ใส่รหัส PIN ที่ปรากฏบนคอมพิวเตอร์ไปบนโทรศัพท์ของคุณ
7. อนุญาตสิทธิ์เหล่านี้เพื่อเข้าถึงคอนเทนต์ต่าง ๆ ในโทรศัพท์ผ่านคอมพิวเตอร์ของคุณ
8. การเชื่อมต่ออุปกรณ์เสร็จสมบูรณ์ ทำตามขั้นตอนบนหน้าจอเพื่อเสร็จสิ้นกระบวนการ
- *ภาพจำลองเพื่อสาธิตวิธีการใช้งาน UI จริงอาจแตกต่างออกไป
- *โปรดดูคำจำกัดสิทธิ์ความรับผิดชอบตรงด้านล่างสุดในหน้าก่อนนี้สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
Second Screen
ขยายพื้นที่ทำงานดิจิทัลของคุณ
เสริมผลิตภาพของคุณด้วย Galaxy Tab ในฐานะการแสดงผลตัวช่วย แอป Second Screen PC ช่วยให้คุณขยายหน้าจอ PC ไปยัง Galaxy Tab ได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มพื้นที่การทำงานได้ไม่ว่าจะเชื่อมต่อด้วยสายหรือแบบไร้สายก็ตาม มีไอเดียดีใช่ไหม จดไอเดีย วาดภาพ และระดมสมอง โดยใช้ปากกา S Pen ช่วยเก็บความคิดของคุณแล้วลงมือทำ 8
(คลิก + วิธีใช้)
Second Screen
[การเชื่อมต่อแบบคลิกเดียวด้วย Samsung Account เดียวกัน (มีให้บริการบน Galaxy Book เท่านั้น)]
1. เปิด Wi-Fi และบลูทูธบน Galaxy Book และ Galaxy Tab ของคุณ
2. เปิดแอป Second Screen บน Galaxy Book ของคุณ
จากนั้น เลือก Galaxy Tab ของคุณ
*ถ้าตัวเลือก "เชื่อมต่อกับแท็บเล็ตที่ใช้ล่าสุดโดยอัตโนมัติ" บน Galaxy Book ของคุณเปิดอยู่ การเชื่อมต่อทั้งหมดจะทำงานทันทีที่คุณคลิกแอป Second Screen บน Galaxy Book ของคุณ
[เชื่อมต่อกับ Galaxy Book หรือตอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่ง โดยไม่มี Samsung account หรือใช้ Samsung Account อีกบัญชีหนึ่ง]
1. เปิด Wi-Fi ทั้งบนคอมพิวเตอร์และ Galaxy Tab ของคุณ
2. บน Galaxy Tab ของคุณ แตะไอคอน Second Screen จาก Quick Panel โดยปัดหน้าจอจากบนลงล่าง
3. เปิดใช้งานแอป Second Screen บนคอมพิวเตอร์ของคุณ
แล้วเลือก Galaxy Tab ของคุณ
- *ภาพจำลองเพื่อสาธิตวิธีการใช้งาน UI จริงอาจแตกต่างออกไป
- *โปรดดูคำจำกัดสิทธิ์ความรับผิดชอบตรงด้านล่างสุดในหน้าก่อนนี้สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
Samsung Notes
ร่วมงานกันได้ทุกที่ด้วย Samsung Notes
ด้วย Samsung Notes บันทึกของคุณจะซิงค์กับอุปกรณ์ Galaxy ทุกเครื่องผ่าน Samsung Cloud มอบประสบการณ์การจดบันทึกที่ราบรื่น มีโครงการงานกลุ่มใช่ไหม แค่สร้างบันทึก แชร์ลิงก์ แล้วเชิญคนอื่นมาดูและแก้ไข 9
ให้ชีวิตสมาร์ทและสุขภาพดีได้ด้วยบริการของ Samsung Galaxy
Galaxy Watch และโทรศัพท์ Galaxy ของคุณทำงานร่วมกันเป็นทีมเดียวที่เชื่อมต่อกันอย่างทรงพลัง
สร้างสมดุลให้แผนดูแลสุขภาพของคุณ
เข้าถึงและจัดการข้อมูลที่ครอบคลุมเกี่ยวกับสุขภาพและสุขภาวะโดยรวมของคุณได้ผ่านแอป Samsung Health ในอุปกรณ์ Samsung Galaxy ของคุณ บูรณาการข้อมูลเชิงลึกโดยละเอียดเพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายด้านสุขภาวะของคุณ 10, 11, 12
ดูแลสุขภาวะของคุณในทุกวันด้วย Energy score
Energy score คือตัววัดพลังงานและความพร้อมของร่างกายและจิตใจในแต่ละวัน โดยจะใช้ข้อมูลวิเคราะห์การนอนหลับ กิจกรรม และอัตราการเต้นของหัวใจของคุณเพื่อคำนวณคะแนนสำหรับวันถัดไป เพียงแค่มีอุปกรณ์ Samsung Galaxy Wearable 13, 14
รับคำแนะนำที่เป็นประโยชน์เพื่อบรรลุเป้าหมายของคุณ
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความก้าวหน้าแผนการดูแลสุขภาพของคุณ โดยอิงจากข้อมูลกิจวัตรด้านสุขภาพในแต่ละวัน ฟีเจอร์เคล็ดลับสุขภาพแสดงข้อมูลวิเคราะห์เชิงลึกโดยละเอียดด้วยการใช้ข้อมูลที่เก็บไว้ใน Samsung Health 13
กินอย่างไรก็ได้อย่างนั้น
สร้างอุปนิสัยการทานอาหารที่ดีด้วยการบันทึกข้อมูลมื้ออหารและของว่างในแต่ละวันด้วย Samsung Health เผยพฤติกรรมการรับประทานที่อิงตามการบริโภควิตามินและสารอาหารของคุณในแต่ละวันและ AGEs* ที่วัดจาก Galaxy Watch พร้อมพัฒนาการรับประทานอาหารให้สมดุลยิ่งขึ้น 15
Find My Phone
ไม่ต้องกังวลกับการวางโทรศัพท์ของคุณทิ้งไว้
หาโทรศัพท์ไม่เจอใช่ไหม หากโทรศัพท์อยู่ไม่ไกล โทรหาด้วย Watch ที่จับคู่กันไว้ผ่านแอป Find My Phone หากโทรศัพท์อยู่ไกลและขาดการเชื่อมต่อกับบลูทูธ ใช้แอป Samsung Find เข้าถึงตำแหน่งโทรศัพท์ของคุณบนแผนที่แล้วโทรหาผ่าน Watch ของคุณ 16
(คลิก + วิธีใช้)
Find My Phone
1. บน Quick Panel แตะ "Find My Phone" แล้วกด "เริ่ม"
2. หากโทรศัพท์ของคุณไม่ได้อยู่ใกล้ ๆ และขาดการเชื่อมต่อกับ Galaxy Watch หรือบลูทูธของคุณ คุณสามารถกดปุ่มตรวจสอบ "✓" เพื่อค้นหาตำแหน่งผ่าน Samsung Find
3. ค้นหาโทรศัพท์ของคุณบนแผนที่ที่ปรากฏบน Watch ของคุณ
- *ภาพจำลองเพื่อสาธิตวิธีการใช้งาน UI จริงอาจแตกต่างออกไป
- *โปรดดูคำจำกัดสิทธิ์ความรับผิดชอบตรงด้านล่างสุดในหน้าก่อนนี้สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
เพลิดเพลินไปกับความบันเทิงอันไร้ขีดจำกัด
Galaxy ทำให้คุณแชร์ ค้นหา และดื่มด่ำไปกับเพลงและรายการโปรดของคุณได้ง่ายยิ่งขึ้น
Media Output
เล่นเพลงได้อย่างต่อเนื่องระหว่างที่สลับใช้งาน
อยากให้เพลงเล่นต่อไปใช่ไหม แค่เปิดเอาต์พุตสื่อใน Quick panel เพื่อฟังต่อผ่านหูฟัง Galaxy Buds รวมไปถึงลำโพง Bluetooth หรือ Wi-Fi พร้อมควบคุมอุปกรณ์ทุกชิ้นได้ในหน้าจอเดียว ยิ่งไปกว่านั้น คุณยังเชื่อมต่อลำโพง Wi-Fi ได้อีกสองตัวขึ้นไปพร้อมกันแล้วเพลิดเพลินไปกับการฟังเพลงที่สอดประสานกันอย่างสมบูรณ์แบบ เสริมความบันเทิงของคุณได้ด้วยสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy 17
(คลิก + วิธีใช้)
Media Output
1. ปัดลงจากมุมขวาบนของหน้าจอเพื่อเปิด Quick panel แล้วแตะ "Media output (เอาต์พุตสื่อ)"
2. เลือกเอาท์พุตเสียงที่คุณต้องการใช้
3. ควบคุมเพลงในขณะที่ฟัง
4. เมื่อมีลำโพง Wi-Fi สองตัวหรือมากกว่า ให้แตะเพื่อเลือกลำโพงทุกตัวให้เล่นเพลงเดียวกัน
*อุปกรณ์ที่รองรับเอาต์พุตเสียง ได้แก่
- Galaxy Buds
- ลำโพงและหูฟังบลูทูธ
- ลำโพงที่มี Chromecast built-in
- ลำโพงแบบมีสาย
- *ภาพจำลองเพื่อสาธิตวิธีการใช้งาน UI จริงอาจแตกต่างออกไป
- *โปรดดูคำจำกัดสิทธิ์ความรับผิดชอบตรงด้านล่างสุดในหน้าก่อนนี้สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
Auto Switch
เปลี่ยนจากภาพยนตร์ไปเป็นการคุยสายได้โดยอัตโนมัติ
เช่น ถ้าคุณกำลังชมภาพยนตร์บน Galaxy Tab ของคุณด้วยหูฟัง Galaxy Buds แล้วต้องรับสายเรียกเข้าบนโทรศัพท์ของคุณโดยกระทันหัน ฟีเจอร์ Auto Switch จะเชื่อมต่อหูฟัง Galaxy Buds ของคุณเข้ากับโทรศัพท์ของคุณโดยทันที เพื่อให้คุณรับสายจาก Buds ของคุณได้ในทันใด เมื่อคุยสายเสร็จ การเชื่อมต่อจะกลับไปยังภาพยนตร์ของคุณ 18
(คลิก + วิธีใช้)
Auto Switch
*ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ Samsung Galaxy ของคุณทั้งหมดเปิด Bluetooth แล้ว และลงชื่อเข้าใช้ Samsung account เดียวกัน
1. บนโทรศัพท์ Galaxy และ Galaxy Tab ของคุณ เปิด "การตั้งค่า"
2. แตะที่ "การเชื่อมต่อ" และแตะที่ "Bluetooth"
3. ค้นหา Galaxy Buds ของคุณในรายการอุปกรณ์ และแตะไอคอนการตั้งค่าที่อยู่ถัดไป
4. เปิด "สลับอัตโนมัติไปยังอุปกรณ์อื่น"
ตอนนี้ Galaxy Buds จะสลับระหว่างอุปกรณ์ต่าง ๆ โดยอัตโนมัติในขณะที่คุณกำลังคุยโทรศัพท์หรือรับชมคอนเทนต์ ฯลฯ
*ไม่จำเป็นต้องตั้งค่าใด ๆ สำหรับ Samsung TV ของคุณ
- *ภาพจำลองเพื่อสาธิตวิธีการใช้งาน UI จริงอาจแตกต่างออกไป
- *โปรดดูคำจำกัดสิทธิ์ความรับผิดชอบตรงด้านล่างสุดในหน้าก่อนนี้สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
Auto Hotspot
ออนไลน์ได้ทันทีในทุกที่ที่คุณไป
ฟีเจอร์ Auto Hotspot ช่วยให้ Galaxy Tab ของคุณเชื่อมต่อเข้ากับฮอตสปอตของโทรศัพท์อย่างต่อเนื่อง และเปิด Wi-Fi ให้โดยอัตโนมัติเมื่อคุณต้องการใช้ 19
(คลิก + วิธีใช้)
Auto Hotspot
*ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เข้าสู่ระบบทั้งสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy และ Galaxy Tab ด้วย Samsung account ของคุณ ไม่เช่นนั้น ให้เชิญสมาชิกในครอบครัวเข้ากลุ่มของครอบครัวจาก Auto Hotspot ของสมาร์ทโฟน Galaxy ของคุณ
1. ในสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy ของคุณ
ไปที่ “Settings (การตั้งค่า)” → แตะที่ “Connections (การเชื่อมต่อ)” → แตะที่ “Mobile Hotspot and Tethering (ฮอตสปอตโทรศัพท์มือถือและการแชร์อินเทอร์เน็ต)” → แตะที่ “Mobile Hotspot (ฮอตสปอตโทรศัพท์มือถือ)” → เปิด “Auto Hotspot (ฮอตสปอตอัตโนมัติ)”
2. เปิด Galaxy Tab ของคุณ
กดไอคอน Wi-Fi ค้างไว้จากแผงควบคุมด่วน โดยปัดลงจากด้านบนของหน้าจอ
3. ค้นหาสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy ของคุณในรายการ Wi-Fi และทำการเชื่อมต่อ
- *ภาพจำลองเพื่อสาธิตวิธีการใช้งาน UI จริงอาจแตกต่างออกไป
- *โปรดดูคำจำกัดสิทธิ์ความรับผิดชอบตรงด้านล่างสุดในหน้าก่อนนี้สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ผลิตภัณฑ์ Galaxy
น่าทึ่งเมื่ออยู่เครื่องเดียว น่าทึ่งไปอีกเมื่ออยู่ด้วยกัน
ทำความรู้จักกับครอบครัวของอุปกรณ์ Galaxy
- ภาพจำลองเพื่อสาธิตวิธีการใช้งานเท่านั้น
- อุปกรณ์มีจำหน่ายแยกต่างหาก อุปกรณ์ที่มีวางจำหน่ายอาจแตกต่างกันไปตามประเทศ ภูมิภาค หรือผู้ให้บริการ
- ฟังก์ชันที่มีให้ใช้งานอาจแตกต่างกันไปในแต่ละอุปกรณ์ ประเทศ ภูมิภาค ผู้ให้บริการ หรือ One UI แต่ละเวอร์ชัน
- Nearby devices จะสามารถใช้งานได้ภายใต้เงื่อนไขดังต่อไปนี้
- ความพร้อมให้บริการของฟีเจอร์: โทรศัพท์ แท็บเล็ต หรือ PC ของคุณต้องเข้าสู่ระบบ Samsung account เดียวกัน และต้องเปิดใช้งานทั้ง Wi-Fi กับ Bluetooth โทรศัพท์กับแท็บเล็ต Galaxy จำเป็นต้องใช้ One UI 7 หรือรุ่นใหม่กว่า สำหรับ Galaxy Books แล้ว จำเป็นต้องติดตั้งแอป Nearby devices จาก Microsoft Store และจำเป็นต้องใช้เวอร์ชันซอฟต์แวร์ด้านล่าง Samsung Settings 6.0 หรือรุ่นใหม่กว่า (Arm), Samsung Continuity Service 1.13 หรือรุ่นใหม่กว่า
- อุปกรณ์ที่สามารถตรวจพบได้: อุปกรณ์ที่เป็นไปตามเงื่อนไขด้านล่างจะปรากฏขึ้นมาเมื่อคุณแตะปุ่ม Nearby devices ใน Quick panel โทรศัพท์กับแท็บเล็ต Galaxy: ต้องเข้าสู่ระบบด้วย Samsung account เดียวกัน และเปิดใช้งาน Bluetooth ต้องใช้ One UI 7 หรือรุ่นใหม่กว่าเพื่อให้สามารถใช้งานทุกฟีเจอร์ได้ โดยจะใช้งานได้แค่บางฟีเจอร์หากโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตของคุณใช้ One UI 4.1.1 หรือรุ่นใหม่กว่า และ Continuity Service 1.2.27 หรือรุ่นใหม่กว่า
Galaxy Book ต้องเข้าสู่ระบบด้วย Samsung account เดียวกัน และเปิดใช้งาน Bluetooth รวมถึงจำเป็นต้องใช้ Samsung Settings 6.0 หรือรุ่นใหม่กว่า (Arm), Samsung Continuity Service 1.13 หรือรุ่นใหม่กว่า ต้องเปิดเครื่องทีวี, สมาร์ทมอนิเตอร์ และโปรเจ็กเตอร์ของ Samsung รวมถึงต้องเชื่อมต่อเข้ากับโทรศัพท์/แท็บเล็ตอย่างน้อยหนึ่งครั้งด้วยการใช้ Smart View หรือ DeX รองรับเฉพาะกับทีวีที่วางจำหน่ายในปี 2016 หรือรุ่นใหม่กว่า ไม่สามารถตรวจพบได้ใน Galaxy Books ต้องจับคู่ Galaxy Buds, นาฬิกาข้อมือ, สายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพ และแหวนเข้ากับโทรศัพท์นี้ด้วย Bluetooth ต้องเปิดใช้งาน Bluetooth ต้องหยิบ Galaxy Buds ออกจากเคสหรือเปิดเคสทิ้งไว้ รองรับกับ Galaxy Watch4 และรุ่นใหม่กว่า ไม่สามารถตรวจพบนาฬิกาข้อมือ, สายรัดข้อมือ และแหวนได้ใน Galaxy Books หรือแท็บเล็ต
- มีให้ใช้งานในอุปกรณ์ที่ติดตั้ง One UI 2.1 หรือเวอร์ชันใหม่กว่า และ Android OS 10 (Q OS) หรือเวอร์ชันใหม่กว่า คอมพิวเตอร์ที่รองรับ ได้แก่ Galaxy Book ซึ่งรวมไปถึงพีซีที่ใช้หน่วยประมวลผล Qualcomm ที่เปิดตัวในปี 2020 หรือรุ่นใหม่กว่า และคอมพิวเตอร์ Windows ของผู้ผลิตรายอื่นที่ใช้ไดรฟ์เวอร์ Intel Bluetooth/Wi-Fi (ระบบปฏิบัติการ: Windows 10 2004 หรือรุ่นใหม่กว่า, ไดรฟ์เวอร์บลูทูธ: Intel เวอร์ชัน 22.50.02 หรือรุ่นใหม่กว่า, ไดรฟ์เวอร์ Wi-Fi: Intel เวอร์ชัน 22.50.07 หรือรุ่นใหม่กว่า) ฟังก์ชัน Quick Share ต้องใช้การเชื่อมต่อบลูทูธและ Wi-Fi จำนวนอุปกรณ์ที่ฟังก์ชัน Quick Share สามารถแชร์ได้พร้อมกันอาจแตกต่างกันไปโดยขึ้นอยู่กับฮาร์ดแวร์ชิป Wi-Fi ของอุปกรณ์ที่ทำการแชร์ ความเร็วจริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ สภาพของเครือข่าย และสภาพแวดล้อมที่ผู้ใช้งานอยู่ สำหรับไฟล์ที่แชร์ผ่านคิวอาร์โค้ดและรายชื่อผู้ติดต่อ จะสามารถแชร์ได้สูงสุด 1,000 ไฟล์พร้อมกัน แต่ละไฟล์ต้องมีขนาดไม่เกิน 10GB และสามารถแชร์ได้ไม่เกิน 10GB ต่อวัน ลิงก์จะหมดอายุภายในสองวัน อุปกรณ์ของผู้ส่งต้องมี Samsung account และทั้งผู้ส่งและผู้รับต้องมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
- Smart View มีให้ใช้งานเฉพาะใน Smart TV, สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต Galaxy ที่รองรับกับ Miracast ความพร้อมให้บริการของ App Cast อาจแตกต่างกันไปในแต่ละอุปกรณ์, แอปพลิเคชัน และประเทศ/ภูมิภาค
- Google Meet เป็นเครื่องหมายการค้าของ Google LLC. มีให้บริการในอุปกรณ์ Galaxy (สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต) ที่ใช้บัญชี Google เดียวกันที่ลงทะเบียนแล้ว คุณลักษณะนี้สามารถใช้ได้เฉพาะในการคุยสายแบบกลุ่มเท่านั้น คุณภาพของวิดีโออาจแตกต่างกันไปตามจำนวนของผู้เข้าร่วมและสภาพเครือข่าย คุณสมบัตินี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ
- ทั้งสองอุปกรณ์จำเป็นต้องเชื่อมต่อเข้ากับ Samsung Account เดียวกันเพื่อใช้ฟีเจอร์การโทรและส่งข้อความในอุปกรณ์อื่น และจำเป็นต้องจับคู่อุปกรณ์ในช่วงแรกของการตั้งค่า เพื่อให้อุปกรณ์สามารถเชื่อมต่อกันโดยอัตโนมัติ ฟีเจอร์นี้มีให้บริการในอุปกรณ์ Samsung ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android P และมี RAM 3GB ขึ้นไป จำเป็นต้องใช้พีซีที่ใช้ Windows 10 ในเวอร์ชัน 1809 หรือใหม่กว่า, Galaxy Book ที่ใช้ One UI 5.0 หรือใหม่กว่า และโทรศัพท์มือถือ Galaxy ที่ใช้ One UI 5.0 หรือใหม่กว่าวันที่เปิดให้ใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าวอาจแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค, ผู้ให้บริการ และอุปกรณ์
- ผู้ใช้ต้องเชื่อมต่ออุปกรณ์ Samsung Galaxy ของตนเองเข้ากับพีซีที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows ผ่านฟีเจอร์ ‘Link to Windows’ ในอุปกรณ์เคลื่อนที่และแอป Microsoft Phone Link ในพีซีแล้วทำตามข้อความแนะนำการติดตั้งซึ่งรวมถึงให้ลงชื่อเข้าใช้งานด้วยบัญชี Microsoft เดียวกัน ฟีเจอร์ Link to Windows ติดตั้งไว้ล่วงหน้าแล้วในอุปกรณ์ Samsung Galaxy บางรุ่น แท็บเล็ตต้องใช้ One UI เวอร์ชัน 5.1.1 หรือใหม่กว่า พีซี (แอป Microsoft Phone Link) ต้องใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 หรือรุ่นใหม่กว่า แอป Microsoft Phone Link ควรให้อุปกรณ์ Samsung Galaxy เชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi เดียวกันกับพีซี บางแอปในอุปกรณ์เคลื่อนที่อาจจำกัดการแชร์บางคอนเทนต์บนหน้าจออื่น บางฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้องอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ แท็บเล็ตไม่มีฟีเจอร์ Call/Message ฟีเจอร์ 'Recent Websites' ใช้ได้เมื่อเปิดแอป Samsung Internet บนสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy ที่มี One UI เวอร์ชัน 3.1.1 หรือรุ่นใหม่กว่า (Samsung Galaxy, S Note, Z Fold, Z Flip) แท็บเล็ตที่มี One UI เวอร์ชัน 5.1.1 หรือรุ่นใหม่กว่า (มีอยู่ในอุปกรณ์รุ่น Tab S เท่านั้น ไม่มีให้บริการในรุ่น Tab FE หรือ Tab Lite) และพีซีที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows ที่ใช้ Windows 10 20H1 หรือรุ่นใหม่กว่า ต้องมีการอัปเดตแอป Microsoft Phone Link/Link to Windows/Samsung Internet เป็นเวอร์ชันล่าสุด
- สามารถใช้งาน Second Screen ใน Galaxy Tab S ตั้งแต่ซีรีส์ S7 เป็นต้นไปได้ทุกรุ่น และ Active4 Pro, Active5 ที่ใช้ One UI 5.1.1 และเวอร์ชันใหม่กว่า (แนะนำให้ใช้ One UI 6.1.1 หรือเวอร์ชันใหม่กว่า) จำเป็นต้องเข้าสู่ระบบด้วย Samsung account เดียวกันทั้งใน Galaxy Tab และ Galaxy Book เพื่อเปิดใช้งาน Second Screen จาก PC ได้โดยตรงโดยไม่ต้องเปิดใช้งานใน Galaxy Tab จำเป็นต้องใช้ PC ที่มี Wireless Display และใช้ Windows 10 20H2 หรือรุ่นใหม่กว่า
- จำเป็นต้องทำการเชื่อมต่อเครือข่ายหรือ Wi-Fi เพื่อใช้งาน Samsung Notes ระหว่างอุปกรณ์ อุปกรณ์ทุกเครื่องต้องเข้าสู่ระบบด้วย Samsung account เดียวกัน ไม่มีให้ใช้งานในอุปกรณ์สวมใส่ การทำงานร่วมกันในโน้ตที่แชร์เป็นกลุ่มนั้นสามารถใช้งานได้เฉพาะในโทรศัพท์ Galaxy และ Tab ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android O หรือรุ่นใหม่กว่า จำเป็นต้องอัปเดตแอป Samsung Notes เป็นเวอร์ชันล่าสุด
- ต้องใช้แอปพลิเคชัน Samsung Health เวอร์ชัน 6.24 หรือรุ่นใหม่กว่า
- ต้องจับคู่ Galaxy Watch7 กับสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 11
- ข้อมูลทั้งหมดบน Samsung Health มีวัตถุประสงค์ด้านสุขภาวะโดยทั่วไปเท่านั้น คำแนะนำใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงส่วนบุคคลของคุณเท่านั้น ไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจหา วินิจฉัย หรือรักษาอาการทางการแพทย์ หรือความผิดปกติด้านการนอนหลับ ปรึกษาบุคลากรทางการแพทย์เพื่อขอคำแนะนำ UX/UI อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเวอร์ชันของซอฟต์แวร์ รุ่นและภูมิภาค รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ
- Energy score และเคล็ดลับเพื่อสุขภาวะมีให้บริการในโทรศัพท์ Android (Android 11 หรือรุ่นใหม่กว่า) และจำเป็นต้องใช้แอป Samsung Health (v6.27 หรือรุ่นใหม่กว่า)
- การตรวจสอบ Energy score ต้องมีการซิงค์ข้อมูลสุขภาพที่ติดตามจาก Samsung Galaxy Watch (ซีรีส์ Galaxy Watch4 และรุ่นใหม่กว่า ยกเว้น Galaxy Fit3) หรือ Samsung Galaxy Ring กับแอป Samsung Health ต้องใช้ข้อมูลกิจกรรมและการนอนหลับของวันก่อนหน้า รวมถึงข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจระหว่างการนอนหลับ เป็นอย่างน้อย ผลลัพธ์ที่ได้ใช้เพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิงส่วนบุคคลของคุณเท่านั้น โปรดปรึกษาบุคลากรทางการแพทย์เพื่อขอคำแนะนำ
- วัด AGEs (สารประกอบขั้นสุดท้ายจากปฏิกิริยาไกลเคชัน) โดยอุปกรณ์ Galaxy Watch7 Series และรุ่นใหม่กว่า (*ฟังก์ชันแล็บ) การวัดระดับสาร AGEs ใช้เซนเซอร์สัญญาณชีวภาพออปติคัลใน Galaxy Watch7 Series ซึ่งทำงานภายใต้ข้อจำกัดที่กำหนดโดยกฎระเบียบด้านความปลอดภัย IEC62471 อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีผิวไวต่อแสงอาจเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากแสง เช่น ผิวเปลี่ยนสีหรือมีผื่นขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการใช้ฟีเจอร์นี้หากคุณพบว่ามีอาการไวต่อแสง
- ฟีเจอร์ Samsung Find (Find My Phone) รองรับบน Galaxy Watch ที่ใช้ Wear OS และจับคู่กับสมาร์ทโฟน Galaxy ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 10 และรุ่นใหม่กว่า สมาร์ทโฟนที่จับคู่ควรเข้าสู่ระบบ Samsung account
- เสียงเรียกเตือนของฟีเจอร์ Find My Phone และเสียงเรียกเตือนในมุมมองแผนที่จะใช้ได้ต่อเมื่อสัญญาณบลูทูธมีการเชื่อมต่อและอยู่ในรัศมีที่ใช้งานได้ เสียงเรียกเตือนในมุมมองแผนที่สามารถเปิดใช้งานจากระยะไกลได้ด้วย
- เมื่อจะเปิดใช้จากระยะไกล Watch ของคุณต้องเชื่อมต่อกับ Wi-Fi หรืออินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือ Watch และสมาร์ทโฟนของคุณควรเข้าสู่ระบบ Samsung account เดียวกันและต้องอนุญาตให้เข้าถึงการติดตามตำแหน่ง
- ในการเชื่อมต่อลำโพง Wi-Fi บนเอาต์พุตสื่อนั้น ลำโพงควรรองรับ Chromecast และมีให้บริการบนอุปกรณ์ Galaxy ที่ใช้ One UI 5.1 หรือรุ่นใหม่กว่า ทั้งลำโพง Wi-Fi และอุปกรณ์ Galaxy ต้องเชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi เดียวกัน ทั้งลำโพงและหูฟัง Buds บลูทูธต้องจับคู่กัน เพื่อใช้เอาต์พุตสื่อ
- ฟีเจอร์ Auto Switch มีให้บริการบนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต Galaxy ที่ใช้ One UI เวอร์ชัน 4.1.1 หรือใหม่กว่า อุปกรณ์ในซีรีส์ Galaxy Watch4 และรุ่นใหม่กว่า ทีวี Samsung รุ่นเปิดตัวปี 2022 หรือรุ่นใหม่กว่า และอุปกรณ์รุ่น Galaxy Book ที่ใช้ One UI เวอร์ชัน 6.0 หรือรุ่นใหม่กว่า ต้องมีการจับคู่หูฟัง Galaxy Buds กับสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต นาฬิกา ทีวี หรือ Book ของ Galaxy อย่างน้อยหนึ่งครั้ง เพื่อใช้งานฟีเจอร์ Auto Switch กับอุปกรณ์เหล่านี้ ฟีเจอร์ Auto Switch มีให้บริการในหูฟัง Buds2 Pro, Buds3 และ Buds3 Pro เท่านั้น และไม่รองรับในหูฟังรุ่นอื่น ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้จะต้องเข้าสู่ Samsung account เดียวกัน และเชื่อมต่อทั้งบลูทูธและ Wi-Fi
- ความพร้อมให้บริการของโมบายฮอตสปอตในโทรศัพท์อาจแตกต่างกันไปตามนโยบายของผู้ให้บริการ ควรลงทะเบียนอุปกรณ์ทั้งหมดด้วย Samsung Account เดียวกัน โทรศัพท์ต้องเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายอุปกรณ์เคลื่อนที่
